คณะเภสัชฯ จัดงานงานประชุมเชิงปฏิบัติการ "การวิจัยแบบผสมผสานในทางเภสัชกรรมปฏิบัติ (Mixed MethodsResearch in Pharmacy Practice)" สร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาวิชาชีพเภสัชกรรม
วันที่ประกาศ 2017-05-19 อ่าน 854 ครั้ง
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 รองศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ ดาวสดใส คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิด "การประชุมเชิงปฏิบัติการเภสัชกรรม ครั้งที่ 24/2560 เรื่อง การวิจัยแบบผสมผสานในทางเภสัชกรรมปฏิบัติ (Mixed MethodsResearch in Pharmacy Practice)" ณ โรงแรม อวานี โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โดยมี เภสัชกรจากกระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา, คณาจารย์จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวน 40 คน ในการประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถเก็บหน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์ ได้ ประมาณ 17 หน่วยกิต
และการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เภสัชกรที่เข้าร่วมประชุมมีความรู้เกี่ยวกับการวิจัยแบบผสมผสาน และ การออกแบบการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนางานเภสัชกรรมปฏิบัติต่อไป
ในอดีตการวิจัยโดยส่วนใหญ่มักเป็นการวิจัยที่มุ่งเน้นไปในด้านการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานแนวคิดในแบบนิรนัย (deductive) โดยมีเป้าประสงค์หลักเพื่อทดสอบทฤษฎีหรือสมมติฐาน การรวบรวมพรรณนาสารสนเทศ ตลอดจนการศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ การหาหลักฐานเชิงประจักษ์ การศึกษาเชิงเหตุและผลในตัวแปรที่สามารถวัดหรือประเมินเป็นตัวเลขได้ ซึ่งข้อดีของการวิจัยเชิงปริมาณที่มีการออกแบบการวิจัยที่ดีคือ การสามารถนำผลลัพธ์จากการวิจัยไปขยายผลอธิบายยังประชากรได้ (generalizability) ตลอดจนมีคุณสมบัติในการศึกษาซ้ำได้ในที่ต่าง ๆ (replicate) แต่มีข้อจำกัดในการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะในบริบทที่มีความจำเพาะที่แตกต่างกันไป ในขณะที่การวิจัยเชิงคุณภาพที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแนวคิดในแบบอุปนัย (inductive) อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างทฤษฎี แนวคิด โดยได้ข้อมูลที่มาจากเชิงลึก และมุ่งเน้นการทำความเข้าใจถึงแนวคิดของปัจเจกบุคคลในลักษณะที่สอดคล้องกับความเป็นจริงตามธรรมชาตินั้น การวิจัยเชิงคุณภาพจึงเป็นเสมือนแนวทางที่ตรงข้ามกันกับการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งเป้าประสงค์หลักของการวิจัยเชิงคุณภาพ มิได้อยู่ที่การนำผลไปขยายยังประชากร แต่มุ่งเน้นการทำความเข้าใจเชิงลึกในกลุ่มที่ศึกษาเท่านั้น จึงมีข้อจำกัดในการนำไปขยายผลในเชิงกว้าง
และเป็นที่มาของ "แนวคิดของการวิจัยผสมผสาน" ซึ่งมาจากการนำระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพมาผนวกรวมเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสม เพื่อนำข้อดีจากทั้ง 2 วิธีการมาประยุกต์ใช้ เภสัชกรจะมีองค์ความรู้ทั้งด้านการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เพื่อใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การศึกษาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านยาของโรงพยาบาล ที่มีทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ และข้อมูลเชิงคุณภาพจากทีมสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น โดยผลที่ได้จากการวิจัยที่มีทั้งภาพกว้างเชิงปริมาณและภาพลึกในด้านความเข้าใจที่ถ่องแท้ จะนำไปสู่การพัฒนาในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการบริบาลเภสัชกรรมแก่ผู้ป่วย ตลอดไปจนกระทั่งถึงการบริหารจัดการในองค์กรและหน่วยงานต่อไป โดยเชื่อมโยงกับความรู้ความก้าวหน้าในทางการแพทย์ เภสัชกรรม และระบบสุขภาพในปัจจุบันมีรากฐานมาจากการวิจัยเป็นหลักสำคัญ
ข่าว/ภาพ : เตชิต (เรียบเรียง/กัณฐาภรณ์)