สวัสดีครับ สมาชิกชาวเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่รักทุกคน

ย่างเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2565 แล้ว และการทำหน้าที่ของทีมบริหารมาครบ 2 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งที่ทีมบริหารได้ลงมือทำมักจะเป็นในส่วนของการจัดระเบียบ ปรับปรุงกระบวนการทำงานต่างๆให้เข้าที่เข้าทาง ซึ่งหลายๆอย่างอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง และส่งผลกระทบต่อบางคน ที่จะต้องปรับตัว ต้องทำหน้าที่ใหม่ๆ หรือต้องมีความรับผิดชอบที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคงจะไม่สามารถทำได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะความร่วมมือจากทุกๆภาคส่วน ที่มุ่งพัฒนาการทำงานของตัวเอง และเข้าใจในบริบทของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะนำไปสู่สิ่งที่ดียิ่งๆขึ้น และความก้าวหน้าของคณะเราต่อไป

ความสำเร็จที่เห็นได้ชัดและเกิดจากความร่วมมือของทุกๆภาคส่วนอย่างแท้จริง คือการจัดกิจกรรมในวันคล้ายวันสถาปนาคณะเภสัชศาสตร์ ครบรอบ 42 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลุล่วงไปได้ด้วยดีพร้อมทั้งได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ที่มาร่วมงานมากมาย และเป็นโอกาสอันดีที่เราได้ร่วมระลึกทั้งอดีตที่ผ่านมาของคณะไปพร้อมๆกับการมองไปข้างหน้า นอกเหนือไปจากการแสดงถึงความสามัคคีและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวเภสัชศาสตร์ที่ได้ร่วมจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งหัวใจสำคัญหรือ Key success factor ของการจัดงานนี้ก็คือความร่วมมือร่วมใจของชาวเภสัชศาสตร์ทุกคน ที่มองเห็นภาพกิจกรรมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และการมีส่วนร่วมกันคนละเล็กละน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรสายสนับสนุน ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนอย่างแท้จริง ทั้งด้านพิธีการ การต้อนรับ การดูแลสถานที่ อาหาร ความเรียบร้อยต่างๆ ซึ่งในนามของผู้บริหารต้องขอแสดงความชื่นชม และขอขอบคุณทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วย

ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สิ่งที่คณาจารย์ทุกๆคนต้องมีส่วนร่วม ก็คือการปรับปรุงหลักสูตรปี 2566 ทั้งหลักสูตรระดับปริญญาตรี และหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาหลายๆหลักสูตรที่ครบรอบปรับปรุงในปีนี้ และสิ่งที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตรที่จะปรับปรุงทั้งหมด คือจะต้องเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ (Outcome Based Education; OBE) ข้อจำกัดจากเงื่อนเวลาที่ต้องปรับปรุงหลักสูตรให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด และการเปลี่ยนแปลงจากกระทรวงอุดมศึกษา ทั้งเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร และการรับรองหลักสูตร ทำให้เรื่องนี้จะต้องเป็นวาระที่สำคัญของคณะในช่วงนี้และในอีก 3-4 เดือนนับจากนี้ สิ่งที่อยากฝากไปยังอาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน คือการที่จะต้องเข้าใจ OBE การเขียนและออกแบบ PLO รวมทั้งวิธีการสอน การประเมินให้ถ่องแท้ รวมถึงต้องศึกษาการประกันคุณภาพหลักสูตรตามเกณฑ์ของ AUNQA ที่จะต้องนำมาใช้ต่อไป ทั้งระดับปริญญาตรีที่อาจารย์ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้อง และระดับบัณฑิตศึกษาที่ก็ต้องทำหลักสูตรแบบ OBE เช่นกัน

ด้านงานวิเทศสัมพันธ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ได้เดินทางไปเจรจาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 22-30 พฤษจิกายนที่ผ่านมา ทั้งกับ University of Toyama, Keio University, Chiba University ซึ่งได้มีการหารือในหลายๆเรื่อง รวมถึงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา การฝึกงานและดูงานของนักศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งนอกจากนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ยังมีอาจารย์ บุลากรสายสนับสนุน และนักศึกษาหลายๆท่านที่ได้เดินทางไปทำวิจัย หรือนำเสนอผลงานในการประชุมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

ในการดำเนินการของคณะ ได้มีการทดลองนำระบบ App Sheet มาใช้ในการลงเวลาปฏิบัติราชการของคณะ ซึ่งถ้าระบบนี้นำมาให้เต็มตัวเมื่อไหร่ บุคลากรจะสามารถลงเวลาเข้าออกจากอุปกรณ์ของตัวเองจากที่ใดก็ได้ภายในคณะ ซึ่งน่าจะทำให้การลงเวลาปฏิบัติราชการสะดวกยิ่งขึ้น โดยจะทำคู่ขนานไปกับการลงเวลาตามปกติ

ในการให้บริการสถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน ร้านยาคณะได้ร่วมมือกับ สปสช. ในการให้บริการจ่ายยาแก่ผู้ป่วยที่ถือบัตรทอง ที่ไม่สบายจากอาการพื้นฐาน 16 อาการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบสิทธิบัตรทองเท่านั้น จึงฝากให้ทุกๆคนช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ามารับบริการกัน รวมถึงนักศึกษาทุกคณะที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง ก็สามารถใช้บริการได้ฟรีเช่นกัน

ในส่วนของการเข้าร่วมกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัย คณะของเราทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และส่วนของนักศึกษา ได้จัดขบวนแห่เข้าร่วมกิจกรรมสีฐานเฟสติวัล “บุญสมมาบูชานาค” ซึ่งในปีนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้กลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่จนเป็นงานระดับประเทศ โดยขบวนของนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ ก็ได้รับรางวัลชมเชยด้วย นอกจากนี้ ผู้บริหารคณะได้เข้าร่วมกิจกรรมบวงสรวงเจ้าพ่อมอดินแดงประจำปี 2565 และกิจกรรมใหญ่ของมหาวิทยาลัยส่งท้ายเดือนพฤศจิกายน คือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “3 พลังเพื่อแผ่นดิน” มข.มอ มช. ครั้งที่ 6 ซึ่งทางขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ และมีผู้บริหารจากทั้งสามมหาวิทยาลัยมาร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยนกันในประเด็นต่างๆ ซึ่งในส่วนของคณะเภสัชศาสตร์ซึ่งนอกจากการเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ยังมีโอกาสได้ต้อนรับคณบดีเภสัชศาสตร์จาก มช. รศ.ดร.สุพัฒน์ จิรานุสรณ์กุล และจาก มอ รศ.ดร.นิมิตร วรกุล ซึ่งทั้งสองท่านได้มาเยี่ยมชมคณะในส่วนของสวนสมุนไพร โรงงานยา และร้านยา พร้อมทั้งพูดคุยถึงแนวทางความร่วมมือต่างๆของคณะเภสัชศาสตร์ทั้ง 3 สถาบันต่อไปด้วย

สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไปในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากพักให้หายเหนื่อยจากงานคล้ายวันสถาปนาคณะ ก็คงเป็นเรื่องการเปิดภาคการศึกษาปลายอย่างเต็มตัว ซึ่งวิชาส่วนใหญ่ของคณะก็จะกลับมาสอนในแบบ On site เหมือนเดิม ซึ่งงานจัดการศึกษาและงานจัดการทรัพย์สินก็ได้เตรียมความพร้อมของห้องเรียนเพื่อที่จะรองรับนักศึกษาอย่างเต็มที่ แต่มีนักศึกษากลุ่มหนึ่ง คือนักศึกษาชั้นปี 5 ที่อาจจะเครียดกว่าคนอื่น เพราะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการสอบใบประกอบวิชาชีพ (CC1 และ CC2) ในวันที่ 16-18 ธันวาคมนี้ ก็ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักศึกษา รวมถึงอาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่จะทำหน้าที่เป็นกรรมการสอบ ก็ขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ซึ่งการสอบในปีนี้ อาจมีความขลักขลักนิดหน่อย เนื่องจากเป็นห้วงเวลาเดียวกันกับการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรปีการศึกษา 2565 ซึ่งเราก็ได้พยายามทำตารางให้ลงตัวมากที่สุด โดยในส่วนของบัณฑิตปริญญาตรีคณะเรา จะฝึกซ้อมในวันที่ 16 ธันวาคม (เช้า) 17 ธันวาคม (บ่าย) ที่คณะ และ 18 ธันวาคม (เช้า) ที่ศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก โดยจะมีการถ่ายรูปและพิธีปฏิญาณตนในช่วงบ่ายของวันที่ 18 และเข้ารับจริงในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ในวันที่ 25 ธันวาคม 2565 จะมีพิธีมอบเสื้อกาวน์และการเตรียมความพร้อมก่อนออกฝึกงานสำหรับนักศึกษาปี 4 ซึ่งก็ขอเชิญคณาจารย์ทุกท่านร่วมเป็นเกียรติในกิจกรรมนี้ด้วย

และในการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปีนี้คณะของเราได้ตกลงจะจัดงานเลี้ยงปีใหม่ในวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น (รอประกาศเป็นทางการต่อไป) ซึ่งก็ขอเชิญบุคลากรของคณะทุกๆท่านเข้าร่วมและสนุกสนานไปกับกิจกรรมโดยพร้อมเพียงกันด้วยครับ รวมถึงการร่วมลุ้นของรางวัลจากคณะและจากผู้บริหาร อยากให้เข้าร่วมกันเยอะๆครับ

และท้ายสุดนี้ สำหรับเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง และผ่อนคลาย ก็ขอให้ทุกๆท่านทำงานอย่างมีความสุข และร่วมมือร่วมใจพัฒนาให้คณะของเราก้าวไปข้างหน้าต่อๆไปด้วยกันครับ

 

#MoveForwardTogether

 

ขอบคุณครับ 

--
ผศ.ดร.นรินทร์ จันทร์ศรี
คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น