สวัสดีทุกท่านครับ

ก้าวเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2566 นั่นหมายความว่าผู้บริหารชุดปัจจุบันได้มารับหน้าที่บริหารครบ 11 เดือนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาจะมีทั้งสิ่งที่ผู้บริหารพยายามรักษาไว้ ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง หรือสิ่งใหม่ๆที่ทำให้เกิดขึ้นในคณะเภสัชศาสตร์ ซึ่งอาจมีทั้งผู้ที่พึงพอใจ หรือผู้ที่ไม่พึงพอใจเพราะอาจต้องทำงานหนักหรือวิธีการที่แตกต่างไปจากเดิม แต่สิ่งที่สัมผัสได้ คือเมื่อทุกคนคิดถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับคณะในด้านต่างๆ ก็คงจะเข้าใจในเจตนารมณ์ และร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อให้พันธกิจต่างๆบรรลุเป้าหมาย และเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ก็คงจะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบลื่นมากยิ่งขึ้นด้วย

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คณะได้มีโอกาสต้อนรับอาจารย์ใหม่อีกท่าน คือ ผศ.มานิตย์ แซ่เตียว ซึ่งเป็นอดีตศิษย์เก่าของคณะเรานี่เอง และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถและได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงทางด้านเภสัชบำบัด ซึ่งจะมาเป็นอาจารย์ในสาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิค และสร้างความเข้มแข็งให้กับคณะต่อไป และคณะยังได้มีโอกาสต้อนรับการมาเยือนของ Visiting Professor ได้แก่ Prof. Motoko Kanke อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งท่านได้มาทำงานที่คณะเภสัชศาสตร์ 2 สัปดาห์ รวมทั้งมีคณาจารย์และนักศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ Keio University ประเทศญี่ปุ่น 20 กว่าคนที่ได้มาเรียนรู้งานด้านเภสัชกรรมและวัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งต้องขอขอบพระคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆคนที่ได้ต้อนรับ แลกเปลี่ยนความรู้ บรรยาย หรือนำนักศึกษาไปศึกษาดูงาน ซึ่งสร้างความประทับใจและได้เสริมสร้างการเรียนรู้ของแขกจาก Keio University เป้นอย่างยิ่ง

สำหรับการขับเคลื่อนงานต่างๆในคณะ ที่ผ่านมาคือการตามเก็บตัวชี้วัดต่างๆ และ OKRs ที่ได้รับมอบหมายจากมหาวิทยาลัย ซึ่งนอกจากจะเป็นข้อมูลในรายงานประจำปี ยังจะเป็นข้อมูลสำหรับรายงานใน EdPex ของคณะอีกด้วย โดยในส่วนของ OKRs ที่รับมาจากมหาวิทยาลัย ตอนนี้เราทำได้ตามเป้าหมายแทบทุกตัวแล้ว ขาดเพียงเรื่องเดียวคือ OKR ที่ว่าด้วยจำนวน paper ต่ออาจารย์ประจำ ซึ่งเราตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.0/1 ซึ่งยังไม่ถึง แต่จากที่ได้หารือกับรองคณบดีฝ่ายวิจัย ได้ข้อมูลว่าในเดือนสุดท้ายคาดว่าจะมี paper ที่ได้รับการตีพิมพ์เพิ่มเติมอีก และน่าจะได้ตัวเลขตามเป้าหมายก่อนสิ้นปีงบประมาณ โดยอาจต้องมีลุ้นเล็กน้อย ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับอาจารย์ในคณะทุกๆคนที่มีส่วนร่วมใน OKR ตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ทำผลงานได้เกินเป้าหมาย จนดึงภาพรวมของคณะขึ้นมาด้วย สำหรับงานด้านอื่นๆ ฝ่ายบริหารได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อขับเคลื่อนภารกิจพิเศษต่างๆของคณะ ได้แก่คณะกรรมการสื่อสารองค์กร ที่รองบริหารทำหน้าที่ประธานเอง คณะกรรมการพิพิธภัณฑ์และสวนสมุนไพร ที่มี รศ.ศุภชัย ติยวรนันท์เป็นประธาน (ซึ่งตอนนี้มีผู้มาขอชมสวนสมุนไพรมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ) คณะกรรมการดิจิทัลและสารสนเทศ ที่มี ผศ.สมชาย สุริยไกร เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการกายภาพและสิ่งแวดล้อมที่มี รศ.วิรัช เรืองศรีตระกูลเป็นกรรมการ ซึ่งในแต่ละคณะจะมีกรรมการที่มาจากหลากหลายหน่วยงาน และช่วยกันทำหน้าที่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของแต่ละชุด ก็ขอเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงไปด้วยดีครับ

กิจกรรมของคณะในเดือนที่ผ่านมา มักจะเป็นการต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากหน่วยงานต่างๆ การเข้าอบรมของบุคลากร กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การนำเสนอผลงานในการประชุมต่างๆ และโครงการส่งเสริมการยื่นขอกำหนดตำแหน่งที่สูงขึ้นของบุคลากรสายสนับสนุน และการประชุมเพื่อที่จะติดตามตัวชี้วัดต่างๆ กองทุนวิจัย บัณฑิตศึกษา การเตรียมความพร้อมในการเข้ารับประเมิน EdPex และการจัดทำโครงการและแผนงบประมาณประจำปี2567 ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้การดำเนินการต่างๆเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ด้านของศิษย์เก่า ที่ตอนนี้สมาคมกำลังบูรณะปรับปรุงองค์พระไภสัชฯรวมถึงหอพระ ซึ่งก็เห็นความก้าวหน้าต่างๆ แต่ก็ยังต้องการการมีส่วนร่วมจากบุคลากรและศิษย์เก่า โดยการร่วมบริจาคสมทบทุนในการบูรณะนี้ (สมาคมไม่ขอเงินสนับสนุนจากงบประมาณคณะ แต่ใช้การขอรับบริจาคจากศิษย์เก่าและผู้มีจิตศรัทธา) และอีกเรื่องที่น่ายินดี คือ ภญ. วรัญญู เล่งวิริยะกุล (สายขิม) ศิษย์เก่าคณะรุ่น 29 ที่ได้รับรางวัล FAPA Young Pharmacist Award ซึ่งถือเป็นรางวัลในระดับเอเชีย และมีเภสัชกรรุ่นใหม่เพียงแค่ 1 คนจากเภสัชทั่วเอเชียที่ได้รับรางวัลนี้ในแต่ละปี ซึ่งก็ขอแสดงความยินดี และถือเป็นความภาคภูมิใจของคณะ รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาปัจจุบันด้วย ในส่วนของนักศึกษา ที่ได้มีตัวแทนเข้าร่วมประชุม Asia Pacific Pharmaceutical Symposium ที่อินโดนีเซีย และคว้ารางวัล 1st Runner up in advance level ในกิจกรรม Patient Counselling Event และอีกผลงาน ที่ถือว่าเป็นผลงานระดับโลกของนักศึกษา คือ นศภ.มัญชลี แสงเมือง (มัสมั่น) ที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานสหพันธ์นักศึกษาเภสัชศาสตร์นานาชาติ (International Pharmaceutical Students’ Federation; IPSF) ในวาระปี 2023-2024 อีกด้วย

ในเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณนี้ (กันยายน 2566) กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในคณะเรา ก็คงเป็นการจัดทำแผนงบประมาณให้สมบูรณ์ การติดตามผลการดำเนินการต่างๆในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี การเข้ารับ Coaching การเขียนรายงานการศึกษาตนเองของคณะตามเกณฑ์ EdPex (อยากให้เข้ากันให้เยอะๆครับ) และเป็นเดือนที่เราจะต้องกล่าวคำอำลาบุคลากรของคณะที่จะเกษียณอายุราชการ 4 ท่าน ที่ปฏิบัติงานในคณะมาอย่างยาวนาน ได้แก่พี่ทวี พรมดี พี่ประจักษ์ พิมพ์สุนนท์ พี่ดวงตา ชัยนิคม และพี่สมศักดิ์ ทองเชิด ซึ่งก็ต้องขออวยพรให้พี่ๆทุกท่านมีเส้นทางหลังเกษียณที่มีความสุข อบอุ่น มีพลัง และแข็งแรงสืบต่อไป และขอเชิญบุคลากรทุกคนร่วมงานเกษียณของพี่ๆทั้งที่ 4 ท่าน ในวันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน นี้ด้วย และยังมีอาจารย์อีกท่านที่ลาศึกษาต่อ คือ อ.เพ๊ญพิชชา สมตน ที่จะไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศไต้หวัน ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในการเรียน และนำความรู้มาพัฒนาคณะต่อไปครับ

พบกันใหม่ในสารคณบดีเดือถัดไป สวัสดีครับ  

ผศ.ดร.นรินทร์ จันทร์ศรี
คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

.